Wednesday, April 30, 2008

Day 33...Apartment Hunting Part II.2

ยังคงตามล่าหา apartment อยู่
ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็คงต้องอยู่หอต่อไปละมั้ง

ว่าแต่ช่วงนี้ตากแดดบ่อยจริงๆ ตอนเที่ยง ไอ้พวกนี้ก็ชวนไปนั่งกินข้าว (แฮมเบอเกอร์, สลัด) กลางแดด รับ UV จนตัวแดงเลย แดดที่นี่แรงซะด้วย

แต่พรุ่งนี้มีสอบด้วยสิ ไปอ่านหนังสือก่อนดีกว่า

Tuesday, April 29, 2008

Day 32...My Poems and Apartment Hunting Part II

การบ้านเมื่อวานมีอยู่ class นึง ให้เขียนกลอนภาษาอังกฤษ วันนี้ก็เขียนต่ออีก ก็เลยเอามาอวด

#####

อันแรกนี่มาแบบมั่ว เพราะเขาให้เขียนยังไงก็ได้ แต่ต้องมากกว่า 4 บรรทัด (ตอนแรกว่าจะเขียนบรรทัดละตัวละ...อิอิ)

In a Timber

In the clear, blue sky,
Flocks suddenly fly.

A dog is running behind.
He stops and sniffs to find.

Something is in a timber.
The dog is so eager,

Goes through the timber actively.
Then it moves back rapidly.

Something is in the timber.
It is nothing but viper.

#####

อันนี้เป็นแบบ Limerick นั่นคือ มี 5 บรรทัด บรรทัดที่หนึ่ง สอง ห้า ต้องลงด้วยเสียงเดียวกัน แล้วบรรทัดที่สามกับสี่ ก็ลงเสียงเดียวกัน เลยออกมาเป็นแบบนี้อะ

Kitten and Pup

There was a kitten.
The kitten was in a kitchen.
There was coming a pup.
The pup was smaller than a cup.
But the kitten was bigger than a hen.

More about Limerick
Example
- Limerick from Limerick
- Limerick poem (Silhouette of a Dead man)
- Funny Limerick Collection #2

#####

อันสุดท้ายละ เป็นแบบ Haiku มี 3 บรรทัด 5-7-5 คือ นับ Syllables เอา บรรทัดแรก 5 บรรทัดที่สอง 7 แล้วก็บรรทัดสุดท้าย 5

My Haiku

I try on Haiku.
Am I writing a Haiku?
Is this a Haiku?

อ้อ ขอบอก อันนี้คุณครูฮาค่ะ อ่านเสร็จเขาบอกว่า "Yes, it is. You're writing it."

More about Haiku
Example
- i need to haiku explain myself
- Haiku 'waterfall haiku'
- Haiku 'spring haiku'
- Haiku 'winter haiku'
- Haiku - Peace haiku

#####

ต่อด้วยเรื่อง Apartment
วันนี้ไปหาเจ้าของห้องที่จะเช่า เพราะไหวตัวทัน เห็นว่าห้องกำลังซ่อม ทิ้งไว้ตั้งนานยังไม่กระเตื้อง ได้ความว่า วัสดุที่เจ๊แกสั่งไป จะส่งมาตั้งแต่วันพฤหัสฯ ที่แล้ว แต่มันไม่ยอมมาส่ง เจ๊ก็ไม่รู้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ จะทันรึเปล่า บอกไม่ได้...สรุปว่า ข้าพเจ้าต้องไปตามล่าหาห้องใหม่สิเนี่ย ดีที่ยังไม่ได้ทำสัญญาอะไรไปนะ ไม่งั้นแย่แน่เลย

Monday, April 28, 2008

Day 31...Photo Update

เมื่อวานบอกแล้วว่าถ้าเพื่อน (และอาจารย์) upload รูปแล้วจะเอามาให้ยล

อันนี้กล้องของ Dr. Box

อันนี้กล้องเอก

ส่วนเรื่องของวันนี้ก็...ไม่มีอะไรนอกจากการบ้านท่วมหัว มีทั้งเขียน essay กับ เขียนกลอน อ๊าก!...ไปทำต่อดีกว่า

Sunday, April 27, 2008

Day 30...Party @ Dr. Box's Home

วันนี้ไปนั่งสมาธิแต่เช้า เสร็จแล้วก็ไปกินข้าวที่บ้าน Dr. Box เป็นอาหารไทยครับท่าน มีแกงเขียวหวาน ข้าวเหนียวสมตำ (ใช้ผักกาดแทนมะละกอ) แล้วก็มี เนื้อแดดเดียว ไก่ย่าง ของหวานก็เป็นเต้าส่วน แทบกระโดดใส่ คิดถึงอาหารไทยอะ เลยกินไปซะเยอะ

คนไปก็มี เอก, มน, พี่ก้าน, พี่นูน, James, Dr. Paun, Dr. Pan (คนไทย มาไกลจาก Monroe) แล้วก็มีนักเรียนของ Dr. Box อีกคน จำชื่อไม่ได้

ได้เจอพี่นุช กับน้องอาร์ต (ครอบครัว Dr. Box) น่ารักดี

กินเสร็จแล้วก็เขาก็ไปเล่นเรือแป๊บนึง แต่อากาศมันเย็นน่ะ เลยไม่ได้เล่นนาน แล้วก็เข้าเล่นเกม Wii กันต่อ เราไม่ได้เล่น เล่นไม่เป็น แล้วก็กลัวติดด้วย กว่าจะกลับ เลยปาไป 6 โมงเย็น

ไว้จะเอารูปที่เอกถ่ายไว้ มาแปะให้ยลกันนะ

I found some fun clips about kittens. Check it out!



Friday, April 25, 2008

Day 28...Four Weeks Passed

เช้ามาก็มี quizes (มันมีหลาย quiz จริงๆ นะ)

ตอนบ่ายว่างเพราะเรียนครึ่งวัน เลยรีบเอา Birth Certificate (ที่เพิ่งได้มา) บวก Passport บวกใบเปลี่ยนชื่อ (ที่แปลแล้ว) ไปขอ SSN (Social Security Number) อันนี้รบกวนเอกกับมนมากเลย เพราะรอนาน แถมคอมมันดันรวนอีก เลยไปธุระที่อื่นก่อน กลับมาก็มาขอ ต้องกรอกใบแล้วยื่นให้เขา แต่ยังไม่ได้นะ เขาบอกว่า กรณีเรามันเป็นกรณีพิเศษ เขาต้องตรวจสอบก่อน (ฮ่วย อะไรมันจะกันนักกันหนาเนี่ย เหนื่อยนะ วิ่งมา 3 รอบแล้ว) เขาบอกว่า เสร็จแล้วจะโทรกลับมาอีกที

เสร็จแล้วเลยแอบมางีบแป๊บนึง แล้วเอกกับมนก็มาชวนไป Wal Mart แต่ยังไม่อยากซื้ออะไรมาก เพราะในบัตรนักเรียน ยังมีเงินเหลืออยู่ ไว้มาใช้ใน U ดีกว่า

อืม หมดเรื่องจะเล่าละ ไปซักผ้าต่อดีกว่า

Thursday, April 24, 2008

Day 27...Gonna Have a Quiz Again

วันนี้มาถึงก็เจอข่าวร้ายเลย...พรุ่งนี้จะสอบอีกแล้ว

พูดถึงสอบ ตาซาอุฯ คนนึง น่าเกลียดมาก พอเขาบอกว่าพรุ่งนี้จะสอบ ตานี่มากระซิบบอกว่า พรุ่งนี้เขาจะโดด (คือ ถ้าขาดสอบก็จะได้สอบใหม่ที่หลัง แล้วเป็นข้อสอบเดิม) แล้วให้เราช่วยจำข้อสอบไว้ให้ด้วย จะบ้าเรอะ! วันนี้เขาก็บอกเยอะแล้วนะว่าจะเอาหน้าไหนมาออก (แถมออกเหมือนการบ้านเป๊ะ) บอกขนาดจะเอาศัพท์คำไหนมาออกด้วย แล้วยังไม่พอใจอีก มาเจอข้อสอบไทยซะก่อน แล้วจะหนาว อาจารย์ไม่บอกอะไรมากด้วย

ตอนบ่าย ใน Conversation class เพิ่งรู้ว่าตัวเองได้เรียนกับคนดัง Karina สาวจาก Venezuela เขาเป็นนักเทนนิส เรียกว่าเล่นอาชีพแหละ จัดอยู่ในอันดับ 2 ของเวเนฯ อายุเพิ่ง 18 เคยตระเวนแข่งในแถบอเมริกาใต้กับยุโรปมาแล้ว แต่ยังไม่ได้ถามอันดับโลกแฮะ ไว้มีโอกาสค่อยถามละกัน

ตอน 2 ทุ่ม เกือบได้ช่วยงาน Dr. Box แต่เหมือนบุญมี แต่กรรมบังยังไงไม่รู้ พอถูกดึงเข้า video conference ใน skype คนอื่นก็เข้าไม่ได้ สุดท้าย อาจารย์เลยต้อง take note เอง เสียดายจัง...

Wednesday, April 23, 2008

Day 26...Ice Cream Day

เรียนจ๊ะ...เที่ยงก็กินข้าว เอ้ย! แฮมเบอร์เกอร์จ๊ะ...พอบ่าย ที่นี่เขามีเลี้ยงไอศครีมกัน อาหย่อยไป 2 แท่ง อิอิ

เพิ่งเคยกินไอศครีมที่นี่เป็นครั้งแรก จริงๆ แล้วเอกกับมนก็บอกว่าของที่นี่อร่อยกว่าที่เมืองไทย เรียกว่า Swensen's ชิดซ้าย แต่ก่อนหน้านี้มันหนาว เลยยังไม่ได้ลองชิม พอได้ชิมจริงๆ ก็รู้สึกว่าอร่อยดี แต่อาจจะยังไม่ใช่ยี่ห้อที่เอกกับมนบอก เลยยังเฉยๆ อยู่

วันนี้ดีใจ ได้ Birth Certificate มาแล้ว จากนี้คงทำอะไรได้บ้างละนะ

Remember? I had a homework to translating a Thai tale. This is a final draft.
http://supada.awardspace.com/files/KohNooKohMaew.pdf

Tuesday, April 22, 2008

Day 25...Excited Experience

วันนี้คงไม่มีอะไรตื่นเต้นกว่าเรื่องนี้อีกแล้ว

เมื่อกี้นี้เอง (ประมาณ 9 โมงหน่อยๆ) ปรากฏว่า Fire alarm ดัง เราก็นึกว่ามันทดสอบระบบ เพราะเมื่อสัปดาห์ก่อน มันก็มีซ้อม (แต่มีประกาศติดไว้ก่อนนะว่าจะซ้อม) ทำไปทำมา เฮ้ย! ทำไมมันดังไม่หยุดวะ แถมบอกให้รีบออกจาตึกด้วย เลยโผล่หน้าออกไปหน้าห้อง ก็เจอ Bruchin เพื่อนตุรกี (ตาคม) ออกมาจากห้องพอดี เขาก็งงว่าอะไร ซักพักก็มีสาวอีกคนมาบอกให้รีบออกจากตึก (ได้ยินไม่ชัดว่าไฟไหม้รึเปล่า) เราก็เลยหิ้วกระเป๋า ที่มี passport กับกระเป๋าตัง ออกไปอย่างเดียว ส่วนเอกสารอย่างอื่น เรานึกไม่ทัน แล้วก็ออกไปยืนกันอยู่ในสนามหญ้าข้างตึกพร้อมกับเพื่อนๆ พอถามใครๆ ก็ยังงงๆ กันอยู่

ยืนกันอยู่ไม่ถึง 10 นาที สัญญาณมันเงียบ คนก็ทยอยเข้าตึก เราก็เข้าไปด้วย แล้วก็เลยไปถามที่ Lobby ว่าเกิดอะไรขึ้น Alex สาวผิวสีที่ดูแลหออยู่ก็บอกว่าไฟไหม้ แต่ตอนนี้สงบแล้ว ทุกอย่างเรียบร้อยดี เราก็เลยกลับห้อง

ก่อนเข้าห้อง สาวตุรกีบอกว่า ก่อนเรามาเคยมี warning เรื่อง Tornado เขาก็ต้องออกมาเตรียมอพยพกันอยู่ข้างล่างเหมือนกันนี่แหละ แล้วตอนนั้นเขากลัวมากด้วย เพราะ roommate เขาก็ไม่อยู่ ปรากฏว่า Tornado มันผ่านถนน I-20 ไป ไม่ผ่านละแวก Tech ก็เลยไม่มีอะไร

เรื่อง Tornado นี่ เอกกับมนเคยเล่าให้ฟังแล้ว เขาบอกว่าจริงๆ ที่ Ruston นี่ปลอดภัย แต่วันนั้นมันใกล้มาก พวกเขาก็เลยต้องเตรียมอพยพกันด้วย

เรื่องลมฟ้าอากาศนี่ หลายๆ คน ก็บอกว่าปีนี้วิปริต Ruston มีหิมะ เป็นเรื่องแปลกมาก เพราะปกติมันจะตกไม่ถึงพื้น ยิ่งมาตกเอาต้น Spring ด้วย แถมปีนี้ร้อนช้ากว่าปีก่อนๆ อีก

ว่าแต่วันนี้อากาศร้อนมาก เดินไปซื้อนมที่ Walgreens เหงื่อแตกเลย...นี่เราเหงื่อออกเป็นครั้งแรกใน Ruston นะเนี่ย

Monday, April 21, 2008

Day 24...Apartment Hunting 5 and Conversation

เช้ามาก็ไปเรียน

เรียนเสร็จก็กลับมาโทรไปที่อพาร์ตเมนต์ เพื่อจะบอกเขาว่า "หนูจะเอาห้องที่ไปดูวันก่อนอะ" แล้วก็ได้คำตอบมาว่า 650 bucks ค่ะ รวมค่าน้ำ ค่าแก๊ส แล้วก็ค่า sewage

อะไรวะ! วันก่อนบอก 600 เดี๋ยวมีต่อย!

พอถาม มันตอบกลับมาก็ฟังไม่รู้เรื่อง ไว้ต้องไปคุยกันใหม่ (แต่จริงๆ ราคานี้ก็ยังถูกกว่าที่อื่นอยู่ดีแหละ)

เสร็จแล้วก็นั่งทำการบ้านอีกซักพัก แล้วก็ไปอาบน้ำ แล้วก็ไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ที่เรียนภาษาอังกฤษด้วยกัน เพราะจะไป Cross-Cultural Counseling Class เขาให้ไปคุยกับนักเรียนอเมริกันใน class นั้น ก็สนุกดีนะ คุยกันขโมงโฉงเฉง ฝึก conversation ดี

กลับมาก็มาทำการบ้านต่อ มีการบ้านเขียนหัวข้อ journal อีกละ เหมือนกับพอนึกอะไรไม่ออกก็ให้เขียนหัวข้อเนี้ยะ เขียนจนไม่มีอะไรจะโม้แล้วนะ

Sunday, April 20, 2008

Day 23...Chinese Buffet

วันอาทิตย์แล้ว

ตอนเที่ยงไปกินข้าวกับ Dr. Box, มน, เอก, Dr. Paun, James แล้วก็ Clayton (ไม่รู้สะกดยังไง) เป็นบุฟเฟ่อาหารจีน รู้สึกว่าอร่อยดี เลยกินซะเยอะ ไม่รู้ว่าเพราะไม่ได้กินนานรึเปล่า

พอกินเสร็จเขาก็จะมี Fortune Cookie มาให้คนละอัน ข้างในจะมีแผ่นกระดาษเขียนไว้ เราได้ "You are a person of strong sense of duty." จริงรึเปล่าเนี่ย?

เสร็จแล้วเขาก็ประชุมกัน เรื่อง Proposal เราเข้าไปฟังด้วย ฟังแล้วก็งงๆ ไม่ค่อยรู้เรื่อง อยากช่วยนะ แต่ไม่รู้จะทำอะไร

พอกลับมา ก็นึกว่าจะไปโบสถ์ต่อ แต่หาคนไปด้วยไม่ได้ ก็เลยไม่ได้ไป เสียดายจัง เลยนั่งแหมะทำการบ้าน (แต่งนิทานภาษาอังกฤษ) ต่อจนเสร็จ อืม...พรุ่งนี้มี draft ไปส่งละ

Saturday, April 19, 2008

Day 22...Merit Day and Korean Food

วันนี้เป็นวันที่ schedule ยาวเหยียด

ตื่นมาแต่เช้า (เช้าสำหรับวันหยุด) ก็ไปซักผ้าก่อนเลย เพราะมีนัดกับพี่นูนพี่ก้านไว้ตอน 10 โมง แต่ปรากฏว่า ปั่นแห้งไม่ทัน เลยไปถึงบ้านพี่นูนพี่ก้านตอน 11 โมงแน่ะ

ไปถึงก็ไปนั่งสมาธิ มีเพื่อนนั่งด้วย นั่งได้นาน ตั้ง 2 ชั่วโมง

เสร็จแล้วก็ไปช่วยสมาชิกที่โบสถ์สร้างบ้านให้แองเจล่า เป็นผู้หญิงผิวดำที่เคยติดยา แต่ตอนนี้เลิกแล้วค่ะ ก็ไม่ได้ทำอะไรมากมาย แค่ปูพื้น รู้สึกจะเป็นกระเบื้องยางมั้ง กาวเหนียวติดเต็มมือเต็มเท้าเลย (ตอนนี้ก็ยังล้างออกไม่หมด) โชคดีที่วันนี้อากาศไม่หนาว ออกจะร้อนด้วย ก็เลยนั่งล้างนั่งขัดอยู่หน้าบ้านเขาได้นาน ไม่งั้นแทบไม่อยากแตะน้ำอะ

ปูพื้นเสร็จก็กลับมาอาบน้ำ ประมาณ 2 ทุ่มก็ไปบ้านพี่นูนพี่ก้านต่อ ไปกินข้าวเย็น เป็นกับข้าวเกาหลี Roommate ของพี่นูนกับพี่ก้านเป็นเกาหลีทั้งคู่ แต่มาจับคู่กับคนไทย แล้วก็อยู่บ้านติดกัน แปลกมั้ยล่ะ

ไม่เคยกินอาหารเกาหลีมาก่อนนะ รู้สึกว่าเขาทำอร่อยดี มี 4-5 อย่างได้มั้ง แต่จำชื่อไม่ได้ซักอย่าง เอาเป็นว่าอิ่มสุดๆ ตั้งแต่มาที่นี่เลย ไม่ไหวแล้ว อึดอัด (เป็นไงล่ะ โทษของความตะกละ)

Thursday, April 17, 2008

Day 21...Test and Test and Thai Dinner

ฝนมันตกแต่เช้า... (กรุณาจินตนาการเสียงเบื่อของข้าพเจ้า)
แต่มันตกไม่หนัก บ้านเราต้องเรียกปรอยๆ อากาศเย็นสุดๆ ต้องหอบเสื้อหนาวที่เจ้าโอ๋ให้มาใส่

ตอนเช้าไปเรียน...ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าไปสอบ Grammar กับ Vocabulary เพราะวิชาแรกก็สอบ แล้วก็เข้าห้องแลบ แล้วก็สอบ R/W อีก

ตอนสอบ Grammar กับ Vocabulary มีแต่คนบ่น เพราะคนสอนบอกว่าจะออกตรงนี้ๆๆ paragraph แรกนี้ แต่พอตอนสอบ เขาเอามาออกทั้งเรื่อง ไอ้เราคนไทย บอกว่าสอบก็คือสอบ ต้องอ่านมาหมด แต่นี่มีนานาชาติ พวกซาอุฯ มันก็บ่นว่าออกไม่ตรงกับที่บอก ต้องตัดทิ้งหรือให้โบนัส สเปนมันก็ส่ายหน้า เราเฉยๆ รู้สึกว่าเขาบอกข้อสอบเจาะจงเกินไปด้วย เกาหลีไม่รู้มันเป็นเหมือนเรารึเปล่า เพราะมันไม่ได้พูดอะไร

พอบ่ายก็ไปบ้านมนกับเอก (อีกละ) ไปคุยเรื่องห้อง ฯลฯ ช่วงนี้เขากำลังยุ่งกับ Proposal น่าสงสารอะ

ตอนเย็นพี่นูนกับพี่ก้านแล้วก็ Song ชวนไปกินข้าวที่บ้าน เพื่อนๆ เขามาด้วย มีสาวเกาหลีน่ารักด้วยอะ เพื่อน Song แต่จำชื่อไม่ได้ละ มันจำยาก (ไม่ค่อยได้ดูหนังเกาหลี เลยไม่ชินกับชื่อมัน)

กับข้าววันนี้คือ...แต่น แตน แต๊น...ต้มยำกุ้ง ผัดซีอิ้ว (กับข้าวรึเปล่า) ผัดผัก แล้วก็หมูหรือไก่ ทำอะไรซักอย่างเนี่ยแหละ เทียบกับตอนกลางวัน (กินพาสต้ามา) ดีกว่ากันเยอะเลย

3 อาทิตย์แล้วน้อ คิดถึงอาหารไทยจัง

Day 20...Preliminary School and Apartment Hunting 4

วันนี้เป็นวันที่ดีอีกวันนึงนะ...

เช้าตื่นมาก็ไปเรียน ตอนกลางวัน ก็เดินแถวกันไป Preliminary school ในบริเวณ Tech ไปเล่านิทานที่ตัวเองแปลให้เด็กฟังอะ เราเลือกแปลเรื่อง "เกาะหนูเกาะแมว" ไปถึงก็เข้าไปในห้องศิลปะ ตอนนั้นมีเด็กอายุประมาณ 6 ขวบนั่งทำการ์ดวันแม่กัน พอเห็นคนแปลกหน้ามาก็หันมามองกันใหญ่ เสร็จแล้วคุณครู (เรียกซะน่ารักเชียะ) ก็จัดการพอเด็กพวกนั้นออกจากห้อง แล้วให้เราไปนั่งตามโต๊ะ เสร็จแล้วคุณครูก็ปล่อยเด็กๆ อีกกลุ่มเข้ามาแทน พวกนี้โตหน่อย ประมาณ 9 ขวบ พวกนี้เขาเลือกเรื่องที่อยากฟังกันมาแล้ว ก็เลยมีกระดาษมาคนละแผ่น พร้อมชื่อตัวเอง ชื่อคนเล่า แล้วก็ชื่อเรื่อง เวลาเราเล่า ก็จะให้เด็กวาดรูปตามที่เราเล่าไปด้วย

เด็กที่เลือกมาฟัง เกาะหนูเกาะแมว กับเราก็เป็นผู้ชายกับผู้หญิงอย่างละคน เด็กผู้ชายมันจ้อเก่ง แต่ไม่ค่อยวาดรูปซักเท่าไหร่ มันทโมน ส่วนเด็กผู้หญิงมันพยายามวาดมากเลย ไม่ค่อยจ้อ ต้องคอยกระตุ้น แต่พวกนี้มันก็น่ารักดีนะ ชอบๆ

ตอนเย็น เลิกเรียนแล้วก็ชวนพี่ก้านไปตามล่าหาที่อยู่กันต่อ ปรากฏว่ามันไม่มีห้องที่ต้องการว่างตอนช่วงพฤศภาฯ นี้อะ ชวนพี่ก้านไปฟรีเลยอะ T_T

Wednesday, April 16, 2008

Day 19... Apartment Hunting 2 - 3

เมื่อวานไม่ได้มา รวบยอดมาวันนี้เลยแล้วกัน

เมื่อวานเรียนเสร็จ กลับมาที่ห้อง ก็รีบมาโทรศัพท์เลย โทรไป 2 ที่ นัดไปดูห้องวันนี้กับพรุ่งนี้
เสร็จแล้วพี่ก้านกับพี่นูนก็ชวนไปยิม ตอนแรกก็กะว่าจะไปดูเฉยๆ ทำไปทำมาก็ไปหัดเล่น squash กับเขาซะ skill เรื่องกีฬาพวกนี้ของเราก็ดีจริงๆ ตั้งแต่ แบตฯ ปิงปอง เทนนิส...เก็บลูกตลอด แต่ก็สนุกดี ตอนที่ดูเขาเล่นกัน ทำไมมันโหดจังหว่า...

กลับมาก็ทำการบ้าน ปวดแขน แล้วก็นอน

วันนี้ตอนเรียน มีคุกกี้เลี้ยง ไม่อร่อยเลย T_T คุกกี้บ้านเขา ที่บ้านเราน่าจะเรียกเค้กถั่วมากกว่า

เรียนเสร็จก็ไปดูห้องตามที่นัดไว้ ห้องอยู่ตรงข้ามห้องมนกับเอก แค่ข้ามถนนน้อยๆ เอง ตอนนี้ห้องยังไม่ค่อยเป็นห้องเท่าไหร่ ถ้าจะเอาจริงๆ คงต้องให้เขาทำความสะอาด ซ่อมโน่นซ่อมนี่ให้เรียบร้อยก่อน

เสร็จแล้วมนกับเอกก็เลยชวนกินข้าวด้วย...กินฟรีอีกละ เกรงใจจัง แล้วก็ไป Wal-Mart (ที่เดิม) แล้วก็กลับมาทำการบ้าน

พรุ่งนี้ต้องไปเล่านิทานให้เด็กประถมฟัง มันจะรู้เรื่องรึเปล่าเนี่ยฦ

Monday, April 14, 2008

Day 17... Apartment Hunting

วันนี้เรียนเสร็จ เห็นมีโทรศัพท์มา ก็เลยโทรกลับ Jill รับ บอกว่าช่วยหา apartment ให้ได้อยู่ 2 ที่ ให้ลองไปเลือกดู แล้วก็ส่ง email มา เราว่ามันแพงไปหน่อยนะ แล้วก็ไกลด้วย ก็เลยไปลองเดินหาดูเอง แต่รู้สึกไม่ได้ผลแฮะ ที่พักพวกนี้ส่วนใหญ่อยู่ในซอกในหลืบ ต้องคนรู้ที่อะ ถึงจะเดินเข้าไปหาได้ เราเลยเดินไปถึง Lab เจอมนพอดี มนก็เลยแนะนำให้หาในเน็ต ได้เบอร์โทรศัพท์มา 2-3 ที่ กะว่าพรุ่งนี้จะลองโทรไปหาดู

การบ้านเยอะชะมัดเลย ไปทำก่อนดีก่า

Saturday, April 12, 2008

Day 16... Day of Internet

พอใช้เน็ตได้ เลยถือโอกาส update blogเป็นการใหญ่... จะเห็นว่า Blog เรามีเพลงให้ฟังด้วย อิอิ

ตอนกลางวันไปบ้านมนกับเอก (อีกแล้ว) ไปกินข้าวเที่ยงอะ แล้วก็กลับมาทำการบ้าน เล่นเน็ต แล้วตอนเย็นพี่ก้านก็มารับไปโบสถ์ รู้สึกว่าการฟังกระเตื้องขึ้นนะ ฟังเขาคุยกันรู้เรื่องมากขึ้น แต่ยังไม่คุยเท่าไหร่

Day 15... Boring Sat. and Coming Online

ตื่นมาก็ไปซักผ้า แล้วก็ไม่รู้จะทำอะไร เพราะเน็ตก็เข้าไม่ได้ (เพิ่งมาเข้าได้เอาตอนกลางคืน) ซักเสร็จก็เอาไปอบ หนอย...มันทำเสื้อหนาวเลยหดไปหน่อยนึง แต่ลองละ ยังใส่ได้อยู่ คราวหน้าคราวหลังจะพยายามไม่ใช่มัน...ฮึ

กลางวันก่อนไปบ้านมนกับเอก ก็ลองไปที่ศูนย์คอมฯ ชั้น 10 ของ Wyly Tower (ตึกที่สูงที่สุดอะ...21 ชั้น) ลองไปถามดูว่าเรื่องเน็ตในห้องเรา ปรากฏว่า...เขาให้ไปถามที่ ชั้น 3 อีกที เขาบอกว่าจริงๆ แค่เสียบสายก็ใช้ได้แล้ว เพื่อนเราก็บอกงั้นอะ T_T

พอลองลงไปชั้น 3 ศูนย์คอมมันอยู่ไหนหว่า หาไม่เจอ ก็รู้ๆ อยู่ว่าเราหลงทางตลอด ก็เลยช่างมันก่อน ไปบ้านมนกับเอกก่อน เพราะนัด Steve ไว้ว่าไปหาอพาร์ตเมนต์ แต่ปรากฏว่า พอ Steve มา เขาบอกว่าออฟฟิศมันปิด แง้ๆ ไม่ได้เรื่องซักกะอย่าง

กลับจากบ้านมนกับเอกก็เลยมานั่งทำการบ้านก่อน ทำเสร็จก็วิ่งไป ชั้น 3 ตึก Wyly Tower อีกที คราวนี้เจอละ ก็เลยไปถามเขา เขาก็บอกว่าไม่ยู้ ให้มาวันจันทร์อีกทีละกัน เพราะมีเจ้าหน้าที่อยู่...แง้ ก็เลยใช้เน็ตแถวนั้นไปก่อน

พอกลับมาที่ห้องอีกที ไปอาบน้ำในห้องน้ำอันน่ากลัว แล้วก็กลับมาเปิดคอมใหม่ เฮ้ย! มันเข้าได้แล้ววุ้ย ดีใจ น้ำตาไหลพราก วันจันทร์ไม่ต้องไปง้อศูนย์คอมแล้ว เย้

อ้อ วันนี้ลองเอากางเกงตัวที่เคยใส่แล้วคับไปมาใส่ ปรากฏว่ามันพอดีขึ้นแฮะ สงสัยจะผอมลง

Friday, April 11, 2008

Day 14... Day of Special Thai Food

วันนี้มีเรียนครึ่งวัน แถมมี quiz ด้วย แต่ก็โอเคแหละ คำศัพท์นิดๆ หน่อยๆ เสร็จแล้วก็เลยไปซื้อของที่ Wal-Mart กลับมา พี่นูนก็ชวนไปนั่งสมาธิที่บ้าน แล้วก็ไปทำกับข้าวกินที่บ้านพี่ก้านด้วย ทำแกงส้มหมูโลโบ้ ผัดผักบุ้งไหม้หน่อยๆ แล้วก็มีน้ำพริกกะปิซอง (ของแพงๆ ทั้งน้าน) Roommate พี่ก้านเป็นคนเกาหลี กินอาหารไทยประยุกต์เข้าไป มันบอกอร่อย ไม่รู้โม้รึเปล่า แต่เรากินแล้ว คิดถึงแกงส้มชะอมไข่ กับผักบุ้งไฟแดง แล้วก็น้ำพริกกะปิของบ้านเราอะ

Thursday, April 10, 2008

Day 13... Classic day

เช้าก็นั่งเรียนๆๆ บ่ายก็เรียน แล้วก็ได้การบ้านให้แปลนิทานของชาติตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ นึกไม่ออกเลยว่าจะเอาเรื่องอะไร ไอ้ที่นึกออกก็ พระอภัยฯ รามเกียรติ์ อิเหนา ฯลฯ บ้าไปแล้ว

พอเลิกเรียนก็ไปกิน Crawfish เย้

เห็นเอกกับมนบอกว่า Crawfish เนี่ย เป็นอาหารประจำถิ่นของที่นี่ ถ้าไม่เคยเห็นก็ไปหาดูในเว็บกันเองแล้วกัน ตอนไปกินก็ไม่รู้หรอกว่ากี่ตัง แต่ปรากฏว่าพอไปถึง เขาแค่ให้บริจาคช่วยผู้ป่วยโรคมะเร็งน่ะ เท่าไหร่ก็ได้ แล้วก็ได้ Crawfish มาหนึ่งถาด เยอะมาก ไม่ต่ำกว่ายี่สิบตัวมั้ง (มันคงได้สูญพันธุ์แน่) พร้อมกับมันฝรั่งสองหัวเล็กๆ แล้วก็ข้าวโพดหวานสองท่อน (ฝักหั่นเป็นท่อนๆ ยาวประมาณสองนิ้ว) อาหย่อย

กินเสร็จกลับไปแล็บกับเอกกับมนก่อน รอเวลาไปดู Piano concert ตอนทุ่มครึ่ง

พอทุ่มนึงก็เดินไป Stone Theater (จำชื่อตึกไม่ได้แล้ว) ตอนแรกไม่รู้จะเข้าไปได้รึเปล่า ใส่รองเท้าแตะ แต่พอไปถึง คนอื่นมีทั้งขาสั้น ทั้งลากแตะเลย

เข้าไปนั่งฟังแล้วประทับใจนะ...ชอบ เพิ่งรู้ว่า Piano concert มันเจ๋งอย่างนี้นี่เอง ฟังไปมองหน้า Pianist ไป อืม...มันคล้อยตามอารมณ์เพลงขนาดนี้เชียว

เพลงแต่งงาน ขอตั้งชื่อ version ว่า เป็น version วิวาห์เหาะ เพราะอารมณ์มันตื่นเต้นอะ

มีอยู่เพลงนึง เขาเล่นมือซ้ายตลอดทั้งเพลง ถึงกับอึ้ง ทำได้ไง เล่นมือเดียวอย่างกับสองมือ นิ้วอะไรจะพลิ้วขนาดนั้น

พอจบเพลงสุดท้าย Black Earth ทุกคนยืนขึ้นปรบมือให้ (ถือว่าคนเยอะเหมือนกัน เพราะที่นั่งเต็ม เพียงแต่มันเป็นโรงละครจิ๋วๆ น่ะ) ในฐานะที่เล่นได้ดีมาก เสร็จแล้วตานั่นเลยออกมาแถมให้อีกเพลง เหมือนเล่นส่งคนฟัง เพราะอารมณ์เพลงเป็นแบบน่ารักๆ กลับไปหลับฝันดี อะไรทำนองนี้

คนนั่งข้างๆ เราเป็นนักเรียนดนตรี เขาบอกว่าคนเล่นเป็นอาจารย์เขา แล้วมนกับเอกก็ชวนคุย คุยไปคุยมาเลยได้เพื่อนเพิ่มมาอีกคน ดีใจ

ก่อนไป ให้ดูสูจิบัตรก่อน เนื่องจากเป็นงานของ Tech เอง ก็เลยไม่ได้ทำหรูหราน่ะ

Wednesday, April 09, 2008

Day 12... My status is offline

ไปนั่งเรียน Structure class น่าเบื่อเล็กน้อย เพราะรู้สึกว่าง่ายไปนิดนึง Conversation class ก็สนุกดี ส่วน R/W class ก็ธรรมดา สงสัยต้องหาอะไรมาฝึกเองบ้างซะแล้ว รออาหารเข้าปากคงไม่โต

วันนี้ต้องไปกินอาหารที่ Cafeteria อีกแล้ว ไม่อร่อยเลย แฮมเบอเกอร์มีแต่ขนมปังสอดไส้เนื้อบด ไม่มีอย่างอื่นเลย ต้องไปตักสลัดกินเอง พรุ่งนี้ตอนกลางวันคงต้องลองหาอย่างอื่นกินบ้างแล้ว ไม่รู้จะใช้บัตรจ่ายได้รึเปล่า

พรุ่งนี้เย็นเอกกับมนชวนไปกิน Crawfish แล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังว่าเป็นยังไง ตอนนี้ถึงเวลาอาบน้ำอีกแล้ว ต้องไปดูก่อนว่ามีคนอยู่ในห้องน้ำรึเปล่า น่ากลัวจัง

Tuesday, April 08, 2008

Day 11... Class Start

วันแรกของการเรียน น่าเบื่อเล็กน้อยถึงปานกลาง จะว่าไปก็คล้ายๆ กับ AUA แต่กิจกรรมเยอะกว่า รอบตัวก็มีแต่ต่างชาติ ถูกบังคับให้พูดภาษาอังกฤษไปโดยปริยาย

ตอนกลางวันมีเลี้ยงพิซซ่า รอดไปมื้อนึง ดีใจ

ตอนเย็นมี International Day ไปเดินๆ ดูนิดนึง เห็นนักเรียนนานาชาติมาออกบูธ ขายอาหารประจำชาติเป็นส่วนใหญ่ บางบูธก็ขายของอย่างเสื้อผ้าประจำชาติ มีอยู่บูธนึงทำ Henna ด้วย ไม่รู้ของชาติไหน แล้วมันก็เปิดเพลงประเทศตัวเองแข่งกัน มันก็เหมือนงานออกบูธทั่วไปละนะ ถ้าจะ make international friends ก็คงดี แต่ตอนนี้เราต้องฝึกภาษาอังกฤษก่อน

กลับไปที่หอ เจอเด็กอเมริกันสามคนนั่งดูทีวีอยู่ เลยเข้าไป join ด้วย พวกนี้น่ารักดี เลยได้เพื่อนใหม่อีกสามคน คราวนี้เป็นอเมริกัน พอบอกว่าเป็นนักเรียน ELS เขาก็อาสาจะเป็นเพื่อนคุยฝึกภาษาให้ ใจดีจัง

Monday, April 07, 2008

Day 10... ELS, First Day

สอบวัดระดับ ทำได้มั่งไม่ได้มั่ง ส่วน Writing นี่เขียนไม่ออก โม้ไม่ถูก (ขนาดภาษาไทยยังเขียนไม่รู้เรื่องเลย จะเอาอะไรกับภาษาอังกฤษ) เจอเพื่อนใหม่อีกหลายคน หลายเชื้อชาติ มีทั้ง Korean, Spanish, Chinese, etc ว่าแต่ทำไมพวกนี้ชอบถามอายุเราจัง เขินนะ รู้ตัวว่าแก่

วันนี้ต้องจ่ายค่า Insurance ไปอีก 95 เหรียญ แพงจริงๆ เลย น้ำตาจะเล็ด

ตอนเที่ยงไปกินข้าวที่ Cafeteria ใช้บัตร ELS รูด ในบัตรมีอยู่ 100 เหรียญ รูดทีเหลือ 93 เหรียญ! อะไรมันจะแพงขนาดนั้นวะ อาหารก็ไม่อร่อย น้ำตาจะเล็ดอีกรอบ

Sunday, April 06, 2008

Day 9... Move in the Dorm

ก่อนอื่นต้องมาติดต่อกับคุณตำรวจที่สถานีใน campus ก่อน ให้เขาบอกว่าต้องไปหอไหน จากนั้นก็ค่อยไปติดต่อที่หอพัก ซึ่งก็คือ Mitchel ดูห้องเรียบร้อยก็ไปช่วยกันย้ายของเข้า แล้วก็ไปซื้อของใช้จำเป็นที่ Wal-Mart เสร็จแล้วค่อยไปกินข้าวที่ Wong เป็นบุฟเฟ่อาหารจีน ก็ใช้ได้สำหรับคนที่เบื่ออาหารฝรั่งหรือคนลิ้นจระเข้อย่างเรา พอกลับเข้าไปที่ห้องทีครั้งถึงจะเจอรูมเมท เป็นสาวญี่ปุ่นตัวเล็กๆ ป้อมๆ ท่าทางห้าวเล็กๆ เรียน ELS เหมือนกัน แต่อยู่ master level แล้ว ยังไม่ค่อยได้คุยอะไรมาก ต่างคนต่างไม่รู้จะคุยอะไร

ที่หอเนี่ย อะไรๆ ก็ไม่น่ากลัวเท่าห้องน้ำ มันเป็นห้องรวม มีสี่คอกพร้อมฝักบัว หน้าคอกไม่ได้ใช้ประตู แต่ใช้ผ้าพลากติกกั้นเฉยๆ น่ากลัวมาก จะอาบน้ำทีต้องหาเวลาที่ไม่มีคนไปอาบ โชคดีที่หอนี้คนอยู่ไม่เยอะนะเนี่ย

Saturday, April 05, 2008

Day 8... D'Arbonne Tour

รอ clip ก่อนนะ ตอนนี้เอาการบ้านภาษาอังกฤษที่เขียนส่งไปอ่านก่อนละกัน

##############################

Last Saturday, I went to D’Arbonne State Park with my Thai friends. It is a little bit far from Ruston to the north. There is a big lake there that many people go fishing in. They may also go camping and cook the fish they caught.

My friends and I saw some boats with one or two men on board each. They were enjoying fishing. Once they got a fish which I don’t know what type it is. My fiends and I didn’t fish because we pity the fish. We just hung around, walked along the nature trails and sensed how nice the nature is. Pine cones were around. White flowers, red flowers that I don’t know their name bloomed in spring. We took many pictures of flowers, trees, birds, and even worms. We found a lizard that I have never seen before. It stood still on a branch of a tree. It was as small as a thumb with long tail and glazed brown skin. One of my friends tried to get close to it to take a photo. But it ran away suddenly. I really don’t like it. Actually, I’m scared of lizards.

We had dinner at McDonald’s and hung out at the lakefront until it got dark because we wanted to take some pictures of sunset. We had to wait for many hours but it worth to wait. It was a beautiful scene when the red sun caught the horizon at the end of the sky. Then, the sky turned red. Birds flew back home. In the dark, the lakefront was filled up by many insects that made us get into the car and leave.

Tuesday, April 01, 2008

Day 4... Campus Tour

ความรู้สึกแรกก็คือ...หลงทางแน่ๆ เพราะพื้นที่ค่อนข้างกว้าง (คนที่มาอยู่ก่อนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยู่ๆ ไปจะรู้สึกว่า มีแค่นี้เองเหรอ) แถมอาณาเขตของ campus ไปถึงไหนก็ไม่รู้ เพราะไม่มีรั้วกั้นเลย

ไว้หาทางแปลง clip ได้แล้วจะเอามาให้ดู

ได้ข่าวว่าพี่จ๋าไม่ชอบ New York ดีจัง จะได้กลับมาเร็วๆ อิอิ